บัตรเครดิต

บัตรอิเลคทรอนิกทางการเงินต่างๆที่ใครหลายคนมีใช้กันอยู่มากมาย ทั้งบัตร ATM , Debit และ Credit Card ต่างมีข้อจำกัดหรือลักษณะในการใช้งานที่แตกต่างกันบ้างเหมือนกันบ้าง  สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักหรือยังไม่เข้าใจกับบัตร ทั้ง 3 ประเภทนี้ เดี๋ยว masii จะช่วยแนะนำถึงความต่างและความเหมือนของบัตรเหล่านี้ ให้ฟังกันครับ อันดับแรกต้องบอกว่าการใช้งานของบัตรทั้ง 3 นี้ใช้งานเพื่อธุรกรรมทางการเงินของเรา โดยสิ่งแรกที่เหมือนกันของทั้ง 3 บัตรนี้คือ สามารถใช้กดเงินสดได้ จากตู้ ATM ทั้งในและต่างประเทศ โดย บัตรATM และ Debit จะเป็นการเบิกจากยอดเงินในบัญชีของเราสามารถโอน หรือชำระค่าบริการต่างๆผ่านตู้ ATM ได้เลย แต่ในส่วนของบัตร...

หากจะพูดถึงบัตรเครดิต  บัตรใบเล็ก ๆ ที่มีอำนาจทางการเงินทั้งแง่บวกและแง่ลบกับชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นบัตรที่ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและยังเป็นบัตรที่รองรับการดำเนินชีวิตของเราในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อเป็นส่วนลด ใช้เพื่อการผ่อนชำระสินค้า ใช้เพื่อการท่องเที่ยวสันทนาการ หรือใช้ในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ นั่นเอง และจากความสนใจในการใช้บัตรเครดิตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างในทุกวันนี้ จึงทำให้ทุกธนาคารและสถาบันการเงินล้วนแล้วแต่จัดโปรโมชั่นทางการแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาเป็นลูกค้าบัตรเครดิตของตัวเองเพิ่มมากขึ้นด้วยการออกบัตรเครดิตรูปแบบต่าง ๆ ที่รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนมากขึ้น แต่จะมีบัตรเครดิตในรูปแบบใดบ้าง และบัตรเครดิตแบบไหนที่ตอบโจทย์ชีวิตเรามากที่สุด วันนี้บทความของเราจะมาพูดถึงความน่าสนใจของบัตรเครดิตแต่ละประเภท เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตให้เหมาะกับความชอบของตนเอง ดังต่อไปนี้ บัตรเครดิตที่สามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลก (International Credit Card) ได้แก่บัตร VISA บัตร Master บัตร Diners club หรือบัตรที่เราทุกคนรู้จักกันดีอย่าง American Express บัตรเครดิตที่ใช้ได้เฉพาะภายในประเทศ (Local...

ความทุกข์อย่างมากอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับผู้ที่มีบัตรเครดิตและใช้มันอย่างไม่ถูกวิธีนั่นก็คือการรูดเงินมาใช้จ่ายจนเกินกำลังและไม่มีความสามารถในการชำระหนี้คืนจนส่งผลให้เกิดเป็นหนี้ที่เพิ่มพูนเป็นดินพอกหางหมูเกินกำลังที่จะแก้ไข ทำให้บางคนก็ทางออกในการแก้ปัญหานี้ด้วยการหนีไปเลยไม่จ่าย  ไม่สน หรือร้ายแรงที่สุดที่ฆ่าตัวเองเพื่อหนีหนี้สินที่มากเกินจะแบกรับไหว แต่บางคนก็เลือกที่จะเดินหน้าสู้ด้วยการมุ่งมั่นคืนเงินให้กับทางธนาคารด้วยการผ่อนชำระไปเรื่อย ๆ เพื่อรักษาเครดิตที่ดีไว้สำหรับการกู้ยืมในครั้งต่อไปหรือใช้สำหรับการกู้ทำธุรกรรมในรูปแบบอื่น ส่วนสำหรับใครก็ตามที่ปวดหัวกับการชักหน้าไม่ถึงหลัง หมุนยังไงเงินก็ยังไม่พอจ่าย รวมถึงกำลังหาแนวทางในการปลดหนี้บัตรเครดิตแบบมือโปรอยู่หละก็ขอบอกว่าวันนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะเราได้รวบรวมทุกแนวทางที่ทำได้ง่าย ได้ผลจริง ที่จะช่วยให้เราสามารถปลดหนี้บัตรเครดิตได้อย่างรวดเร็วมาฝากกัน ดังต่อไปนี้ 6 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิต เดินหน้าประนีประนอมอย่าหนี อย่าหลบหน้า ตั้งหลัก เจรจาอย่างเดียวค่ะพูดคุยกับเจ้าหนี้ถึงสภาพความเป็นจริงทางการเงินและความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนว่าเราสามารถจ่ายคืนได้ที่เท่าไหร่ คำนวณยอดหนี้และคำนวณรายได้ให้มีความสัมพันธ์กันว่าในแต่ละเดือนจะต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ เหลือไว้ใช้เท่าไหร่ โดยดูว่าหนี้กองใดที่สำคัญมากและขาดส่งไม่ได้ให้จัดไว้เป็นอันดับต้น ๆ   ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการเงินและปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตของตัวเองให้สมดุลกันมากขึ้นโดยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปและเหลือไว้แค่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเท่านั้น เพิ่มอัตราการจ่ายแบบขึ้นบันได เช่นเพิ่ม 5% ในทุก 3 เดือน เพื่อเป็นการลดต้นลดดอกให้น้อยลงเร็วขึ้น...

หลายคนคงมีบัตรเครดิตกันอยู่แล้ว แต่มีอีกหลายคนที่ยังไม่มีบัตรเครดิต และอาจกำลังอยากจะขอบัตรเครดิตอยู่ แถมยังเป็นบัตรเครดิตใบแรกด้วย ความกังวลเรื่องการขอบัตรเครดิตต้องมีแน่นอนใช่หรือเปล่าครับ ว่า เราจะสมัครบัตรเครดิตผ่านหรือเปล่า จะติดอะไรมั้ย ธนาคารจะอนุมัติหรือเปล่า เรามาดูกัน ว่าการทำบัตรเครดิตใบแรก หรือการขอบัตรเครดิตใบที่สอง ของเรา หรือทำบัตรเครดิตที่มีเงื่อนไขเงินเดือน 15,000 บาท จะทำอย่างไรให้ธนาคารอนุมัติไว และมีบัตรเครดิตไว้ใช้จริงๆ ทำบัตรเครดิต ฐานเงินเดือน 15,000 บาท ให้ อนุมัติผ่านแน่ๆ สิ่งที่ธนาคารและสถาบันการเงินจะดูสำหรับการสมัครบัตรเครดิต ฐานเงินเดือน 15,000 บาท ตรวจสอบฐานเงินเดือน หรือ รายได้ - สิ่งที่ธนาคารและสถาบันทางการเงินที่เรายื่นขออนุมัติบัตรเครดิตจะทำเป็นอย่างแรกเลยคือ ตรวจสอบรายได้ขั้นต่ำของเราครับ ซึ่งส่วนใหญ่บัตรเครดิตจะต้องการฐานเงินเดือนขั้นต่ำที่ 15,000...

เนื่องจากในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ในบางครั้งการทำงานในออฟฟิศหรือสถาบันที่ชื่อเสียงกลับไม่ทำรายได้ให้กับเราได้เท่ากับคนที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง จึงส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมหันมาประกอบอาชีพอิสระกันมากขึ้น แต่ในบางครั้งการประกอบอาชีพอิสระหรือการประกอบส่วนตัวเป็นของตัวเองก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของรายได้ที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ในบางครั้งประสบปัญหาการขาดเงิน หรือไม่มีเงินสำรองเมื่อต้องการเงินฉุกเฉิน รวมถึงบางกลุ่มที่ต้องการมีบัตรเครดิตไว้เพื่อซื้อของทางออนไลน์ ซื้อของแบบผ่อน หรือเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดด้านต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดความต้องการในการทำบัตรเครดิตสักใบเป็นของตัวเองเพื่อที่จะได้มีเงินไว้สำรองใช้จ่ายหรือเพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ แต่จะทำอย่างไรให้ได้บัตรเครดิตมาเพราะส่วนมากการทำบัตรเครดิตนั้นมักจะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่มีการงานมั่นคง และมีรายได้ที่สม่ำเสมอ ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าคนที่ทำงานอิสระ ก็ไม่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้อย่างนั้นหรือ? ขอบอกก่อนเลยว่าไม่เสมอไป เนื่องจากในปัจจุบันได้มีบางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินได้เปิดโอกาสให้คนที่ทำงานในอาชีพอิสระสามารถมีบัตรเครดิตเป็นของตนเองได้แล้ว ด้วยการสมัครบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากในบัญชีค้ำประกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ บัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากในบัญชีค้ำประกันนั้น เป็นการทำบัตรเครดิตโดยการใช้เงินในบัญชีเป็นตัวค้ำประกันรายได้ โดยทางธนาคารจะทำการพิจารณาตรวจสอบหลักฐานทางการเงินจากตัวเลขในบัญชีก่อนนำไปสู่การพิจารณาอนุมัติ ส่วนวงเงินที่ทางธนาคารจะอนุมัตินั้นโดยมากจะอยู่ที่ 90 – 95% ของเงินในบัญชีที่ยื่นกู้นั่นเอง ซึ่งการที่ทางธนาคารจะพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัตินั้นก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับส่วนนี้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ทางธนาคารจะต้องทำการตรวจสอบประวัติค้างชำระหนี้ลูกค้าก่อนด้วยซึ่งถ้าหากลูกค้าเคยมีประวัติมาก่อนทางธนาคารก็อาจไม่อนุมัติได้เช่นกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการมีบัตรเครดิตทุกคนไม่ว่าจะเป็นการประกอบอาชีพอิสระส่วนตัวหรือทำงานประจำที่มีรายได้แน่นอนก็คือในเรื่องของการมีวินัยทางด้านการเงินเช่นการวางแผนทางการเงิน การแบ่งเงินเพื่อเตรียมชำระในแต่ละเดือน รวมไปจนถึงการพิจารณาก่อนการกู้ยืมหรือนำเงินอนาคตออกมาใช้จ่าย เพราะการนำเงินในบัตรเครดิตออกมาใช้จ่ายนั้นยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งมีระยะเวลาในการคืนนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้เราต้องเสียดอกเบี้ยแพงมากขึ้นตามไปด้วย และที่สำคัญคือการมีวินัยทางการเงินที่ดี ที่จะช่วยเราจะสามารถก้าวข้ามผ่านการเป็นหนี้ระยะยาวหรือบานปลายกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่จะส่งผลต่อประวัติการเงินจนไม่สามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินด้านอื่นได้ในอนาคตนั่นเอง เปรียบเทียบบัตรเครดิตจากหลายๆธนาคารและจากหลายสถาบันการเงิน พร้อมสมัครฟรีได้ที่ masii.com...

สำหรับใครที่เริ่มทำงานมาแล้วสักระยะหนึ่ง แล้วกำลังสนใจว่าจะต้องทำบัตรเครดิตหรือบัตรเงินสดไว้สักใบสองใบเพื่อไว้เป็นเงินสำรองหรือเงินฉุกเฉินยามเจ็บป่วยหรือต้องการใช้เงินในกรณีเร่งด่วน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มสมัครอย่างไรดี  หรือหลายคนที่อาจมีประสบการณ์ในการสมัครมาบ้างแล้วแต่ยื่นเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านและกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะผ่านเกณฑ์การสมัครของสถาบันต่าง ๆ จนได้มีบัตรเป็นของตัวเองสักทีก็ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะวันนี้บทความของเราจะขออาสาเป็นผู้ช่วยในเตรียมตัวเพื่อให้ทุกคนที่อยากมีบัตรได้มีบัตรเครดิตเป็นของตนเองด้วยวิธีการเตรียมตัวแบบง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ เตรียมเอกสารการสมัคร โดยผู้สมัครจะต้องทำการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนตามที่แบบฟอร์มของธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลส่วนตัวและที่อยู่ที่พักอาศัยที่จะต้องเป็นที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้สะดวก เนื่องจากจะเป็นสถานที่ ๆ เอกสารสำคัญของธนาคารจะมาถูกส่งมาให้กับผู้สมัครนี่ที่นั่นเอง เตรียมเอกสารเกี่ยวกับประวัติการทำงาน และหลักฐานการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ ขอบอกเลยว่าการยื่นขอจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เพราะจะเป็นส่วนที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินนำไปใช้ประกอบพิจารณาอนุมัติ ซึ่งธนาคารส่วนมากมักจะดูในเรื่องของความมั่นคงในการทำงาน และฐานเงินเดือนที่ถือเป็นรายรับที่มั่นคงของเราว่ามีเงินโอนเข้าอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำหรือไม่ ซึ่งถ้าหากทั้งสองส่วนนี้มีครบและสามารถแสดงได้ถึงความมั่นคงก็ยื่นกู้ได้ผ่านฉลุยแน่นอน แหล่งที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ การยืนยันตัวตนและการมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งถือเป็นสิ่งสำคัญมากกับการสมัครบัตรเครดิต  ทางที่ดีที่สุดคือผู้สมัครควรให้หมายเลขที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่ง ตรวจสอบได้เพื่อเป็นการยืนยันที่เป็นหลักแหล่งของผู้ที่ยื่นกู้ ก็จะทำให้สมัครผ่านได้ง่าย ๆ นั่นเอง ฝึกซ้อมลายเซ็นให้ตรงกัน อีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นหากต้องการยื่นขออนุมัติบัตรเครดิตนั่นก็คือการพิจารณาในส่วนของลายเซ็นที่จะต้องตรงกันในทุกเอกสาร มิฉะนั้นอาจจะไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากทางธนาคารได้ และแค่เพียง 4 ขั้นตอนในการเตรียมตัวง่าย ๆ...

เป็นที่ทราบกันดีว่า บัตรเครดิต นั้น เปรียบเสมือนอีกหนึ่งตัวช่วยทางการเงินที่ทำให้หลายคนผ่านวิกฤติฉุกเฉินหรือทำให้สามารถจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่ตนเองต้องการได้ง่าย ๆ  แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า หากใช้บัตรเครดิตอย่างไม่ระมัดระวัง หรือไม่มีวินัยในการใช้จ่ายที่ดีพอ ก็อาจทำให้เกิดหนี้สินมากมายจากการใช้บัตรได้  และในวันนี้บทความของเราจึงได้รวบรวมแนวทางของข้อควรรู้ก่อนเริ่มใช้บัตรเครดิตสำหรับผู้ที่ตัดสินใจอยากทำบัตรเครดิตหรือเริ่มต้นใช้บัตรเครดิต ดังต่อไปนี้ บัตรเครดิตคืออะไร บัตรเครดิตเป็นบัตรที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน โดยในบัตรแต่ละใบนั้นจะมีวงเงินส่วนของตัวแต่ละบุคคลที่สามารถเบิกนำมาใช้ก่อนได้แต่ต้องเสียดอกเบี้ยถามอัตราส่วนที่ใช้จ่ายไปก่อนล่วงหน้านั่นเอง วัตถุประสงค์ในการใช้งานบัตรเครดิต โดยทั่วไปจะใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระสินค้าหรือจ่ายแทนเงินสด รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดออกมาใช้ในรูปแบบวงเงินฉุกเฉินที่จะสามารถถอนมาใช้ได้ตามวงเงินที่ได้รับการอนุมัติไว้จากทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่ออกบัตรเครดิต บัตรเครดิตมีกี่ประเภทอะไรบ้าง ระดับของบัตรเครดิตนั้นจะมีหลายระดับ เช่นบัตรพื้นฐานหรือบัตรคลาสสิค บัตรเครดิตระดับกลางหรือระดับสูง บัตรเครดิตเพื่อธุรกิจ หรือบัตรเครดิตร่วม จะใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้ปลอดภัย สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อมีบัตรเครดิตอยู่ในมือแล้วก็คือการวางแผนใช้บัตรเครดิตที่เรามีอย่างปลอดภัย ด้วยการทำตามวิธีการ ต่อไปนี้ เมื่อได้รับบัตรมาแล้วให้เซ็นชื่อหลังบัตรทันที และควรตั้งรหัสบัตรที่ท่านสามารถจำได้ง่าย แต่ผู้อื่นสามารถเดาได้ นอกจากนี้ยังไม่ควรเขียนรหัสผ่านไว้บนบัตรอย่างเด็ดขาด ไม่ควรบอกให้ผู้อ่านทราบรหัสผ่านหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่จะนำไปสู่ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดการจารกรรมบัตรได้ หากต้องการจดหมายเลขบัตรหรือรหัสผ่าน ให้จดแยกไว้ต่างหาก เพื่อป้องกันการนำรหัสของบัตรไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติ เมื่อนำบัตรไปใช้ตามร้านค้าต่าง ๆ   ก่อนการเซ็นชื่อควรมีการตรวจสอบสลิปหลังการรูดวงเงินจากบัตรว่าตรงกับยอดเงินที่ต้องการชำระหรือไม่  และควรเก็บสำเนาหรือใบบันทึกรายการเอาไว้เพื่อป้องกันการผิดพลาดในภายหลัง หากเกิดปัญหาในการใช้บัตรเครดิต ให้ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าของบัตรเท่านั้น...

อีกหนึ่งรูปแบบของสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ถือบัตรเครดิตจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ชื่นชอบอย่างมากเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรนั่นก็คือในเรื่องของคะแนนสะสมบัตรเครดิต ที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนการคืนกำไรในรูปแบบของยอดสะสม แต้ม พอยท์ หรือเป็นตัวเงินตามแต่รูปแบบการให้บริการของธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ จะเป็นผู้กำหนดขึ้นนั่นเอง โดยคะแนนเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ถือบัตรทุกคนใช้จ่ายผ่านบัตรซึ่งจะได้คืนกลับมาในรูปแบบคะแนนสะสมอัตโนมัติ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วการรับคะแนนสะสมบัตรเครดิตคืนนั้นจะมีกฏของการแลกเปลี่ยนเริ่มต้นอยู่ที่ 25 บาทต่อ 1 คะแนนนั่นเอง ทำความรู้จักคะแนนสะสมบัตรเครดิต   อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสนใจและอยากรู้ก็คือคะแนนสะสมบัตรเครดิตเหล่านี้สามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง จึงทำให้คนส่วนใหญ่อยากมีบัตรเครดิตไว้สะสมแต้ม วันนี้บทความของเราก็ได้ทำการรวบรวมแนวทางในการแลกคะแนนสะสมมาฝากกัน ดังต่อไปนี้ 1. สามารถแลกคืนกลับมาใช้เป็นส่วนลด  ส่วนมากโปรโมชั่นหลักของการใช้จ่ายผ่านบัตรเพื่อแลกคะแนนสะสมมักอยู่ในรูปแบบของการใช้เป็นส่วนลดร้านอาหาร ที่พัก ที่ท่องเที่ยว หรือใช้สำหรับการจับจ่ายใช้สอยเพื่อแลกซื้อสินค้า เช่นใช้ 500 คะแนนเพื่อแลกเป็นส่วนลดร้านอาหาร ใช้ 20,000 คะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดสำหรับที่พัก หรือดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูเป็นต้น 2. สามารถนำมาแลกคืนเป็นของรางวัล อีกหนึ่งรูปแบบที่ของการแลกคะแนนสะสมที่นิยมกันมากก็คือการนำคะแนนไปแลกเป็นของรางวัลไว้เช่นใช้แต้มสะสม 1000 คะแนน สามารถไปแลกเมนูพิเศษ...

ปัญหาของเรื่องดอกเบี้ยบัตรเครดิต ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่สำหรับผู้ที่ใช้บัตรเครดิตหรือผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการผ่อนชำระและต้องการลดยอดของการผ่อนชำระลงเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่นเพิ่มมากขึ้นหรือต้องการปลดภาระหนี้สินให้หมดลงโดยเร็ว เพราะล้วนทราบกันดีว่าดอกเบี้ยจากบัตรเครดิต ยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มพูนออกดอกออกผลมากเท่านั้นจนอาจทำให้เกิดเป็นหนี้กองโตในอนาคตที่ยากจะชดใช้คืน และสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการในการลดดอกเบี้ยจากการผ่อนชำระ หรือหาทางปลดหนี้บัตรเครดิตให้หมดไปอย่างรวดเร็วในบทความของเราได้ทำการรวบรวมเคล็ดลับการลดดอกเบี้ยเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตมาฝากกัน ดังต่อไปนี้ วิธีการแรก  เพื่มเพื่อลด แค่เพียงเราเพิ่มอัตราในการผ่อนชำระให้สูงขึ้นจากเดิม 1 เท่า เช่นเพิ่มจากอัตราการส่งขั้นต่ำ 5 % เป็น 10% ก็จะสามารถช่วยลดอัตราดอกเบี้ยจากการผ่อนชำระได้ครึ่งนึงเลยทีเดียว เพราะโดยส่วนมากการเป็นหนี้บัตรเครดิตของหลาย ๆ คนก็มักจะเริ่มต้นจากคำว่าดอกเบี้ยขั้นต่ำ (แต่ระยะเวลาในการผ่อนนานขึ้น) ซึ่งถ้าเราสามารถชำระหนี้ได้มากขึ้น ดอกเบี้ยก็จะยิ่งลดลงนั่นเอง วิธีการที่สอง ทำรีไฟแนนซ์ อีกหนึ่งวิธีการที่นิยมทำกันมาก (ดอกเบี้ยจะลดลงแต่จะเพิ่มเวลาในการผ่อนชำระยาวนานขึ้น) ก็คือการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่เปรียบเสมือนกับการโอนวงเงินการชำระหนี้จากบัตรเดิมไปสู่บัตรใหม่ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงจากเดิม  ซึ่งสำหรับผู้ที่ใช้บัตรเครดิตมาเป็นเวลานานและมีหนี้จำนวนมากที่ยังคงคั่งค้างส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้วิธีเป็นทางออกในการจัดการหนี้บัตรเครดิตนั่นเอง วิธีการที่สาม ทำการรีไฟแนนซ์ ใช้ทั้งสองวิธีควบกันนั่นคือทำทั้งเพิ่มอัตราการผ่อนชำระให้สูงขึ้นบวกกับการทำรีไฟแนนซ์ ยกตัวอย่างเช่นหากจากเดิมผ่อนชำระกับธนาคารเดิมในอัตรา 3,000 บาทต่อเดือน หลังทำการรีไฟแนนซ์แล้วก็ยังให้จ่ายในอัตราที่เดิมในรูปแบบที่ดอกเบี้ยต่ำพิเศษก็จะทำให้ปลดหนี้จากบัตรเครดิตได้ไวขึ้นนั่นเอง หนี้บัตรเครดิต ถือเป็นอีกหนึ่งภาระทางการเงินระยะยาวที่มักก่อปัญหาให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของบัตรเสมอ โดยเฉพาะเจ้าของบัตรที่ไม่มีวินัยทางการเงิน หรือผ่อนชำระไม่ตรงเวลา เพราะหนี้ส่วนนี้มักจะก่อตัวจากดอกเบี้ยจนกลายเป็นภาระในการผ่อนชำระก้อนโตในอนาคตได้...

สวัสดีค่ะมาสิแฟนทุกๆ คน วันนี้มาสิจะมาชวนคุยเรื่องบัตรเครดิตแบบเสริม อย่างที่หลายคนรู้ว่าหากเรามีบัตรเครดิตบัตรหลักของเราแล้ว หากญาติพี่น้อง พ่อแม่ หรือลูกของเราต้องการจะเปิดบัตรเครดิต แต่ไม่ได้มีรายได้ชัดเจนหรืออายุยังไม่ถึง ก็สามารถมีบัตรเครดิตได้เพียงแค่เราสมัครบัตรเสริมให้ บัตรเครดิตเสริม คิดให้ดีก่อนสมัครให้ใคร หนี้ที่มาโดยไม่รู้ตัว หนึ่งในสิ่งที่เจ้าของบัตรเครดิตกลัวคือการเป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่งมาสิขอเสริมต่อนะคะ เพราะหลายคนที่หลวมตัวเปิดบัตรเสริมให้คนอื่น มักจะคิดว่าบัตรของใครก็ของมัน แต่ความจริงแล้วการไม่ชำระหนี้ที่บัตรเสริมก่อนหรือชำระล่าช้า คนที่จะซวยไม่ใช่ผู้ถือบัตรเสริมแต่เป็นเราที่เป็นผู้ถือบัตรหลัก ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว มาสิขอบอกเลยว่ายากมากที่จะในอนาคตจะขอสินเชื่อ บัตรเครดิต หรือสินเชื่อบ้าน กับสถาบันเหล่านั้นแม้จะเคลียร์ประวัติแล้วก็ตาม วงเงินในการอนุมัติ นอกจากในเรื่องหนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญคือ “วงเงินในการอนุมัติ” ในบางทีการอนุมัติวงเงินของบัตรเสริมจะเป็นวงเงินเดียวกัน นั้นเท่ากับว่าเราอาจจะต้องแบ่งวงเงินส่วนหนึ่งหรือครึ่งหนึ่งให้กับบัตรเสริมใช้ด้วย ซึ่งในบางครั้งเมื่อเราจำเป็นจะต้องใช้วงที่เต็มจำนวนอาจทำให้ต้องลำบากในการขอวงเงินชั่วคราวค่ะ คะแนนสะสม สำหรับบัตรเครดิตแบบเสริม บางทีคะแนนสะสมของบัตรหลักและบัตรเสริมจะแยกกัน แต่บางทีบัตรเครดิตบางใบก็จะรวมคะแนนสะสมของบัตรหลักและบัตรเสริมไว้ด้วยกันค่ะ ดังนั้นบางทีบัตรเสริมก็จะช่วยให้เรามีคะแนนบัตรเครดิตขึ้นเร็ว โดยที่เราอาจจะไม่ต้องใช้บัตรเครดิตใบนั้นเอง หรือเมื่อมียอดใช้จ่ายเยอะก็อาจทำให้เราสามารถขอเวฟค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตได้ เปรียบเทียบบัตรเครดิต มาสิ คือ เว็บไซต์เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินอันดับ 1 ของไทย มีทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านและการรีไฟแนนซ์บ้าน...